วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

Risk Manangement

Risk Management มีขั้นตอนอะไรบ้าง
การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) เป็นงานด้านหนึ่งของการบริหารโครงการ อันเนื่องมาจากการประสบปัญญาทำให้งานไม่เสร็จตามเวลาที่กำหนดไว้ หรือการใช้จ่ายงบประมาณเกินวงเงินของโครงการ หรือการส่งมอบงานที่ลูกค้าไม่ถึงพอใจจนต้องปรับปรุงแก้ไข การป้องกันความเสี่ยงข้างต้น อาจดำเนินการได้โดยการบริหารความเสี่ยง หรือ การควบคุมไม่ให้ภาวะคุกคามเหล่านั้นเกิดขึ้นกับโครงการ
ความเสี่ยงอาจเกิดจากหลายสาเหตุโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อจำกัดของโครงการและความไม่แน่นอนอันเนื่องมาจากอิทธิพลการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมโครงการ จนเป็นเหตุให้การคำนวณกิจกรรมของโครงการคาดเคลื่อนจากความจริง ผลที่ตามมาที่เห็นได้ชัดเจนคือ หากยอมรับความล่าช้านั้น ก็ต้องเพิ่มงบประมาณและผลกระทบคือ ค่าใช้จ่ายเกินกว่าที่กำหนดไว้ วันสิ้นสุดของโครงการผิดพลาดและก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของธุรกิจหรือโครงการ ในกรณีที่ต้องจัดสรรทรัพยากรเพิ่มเติมผลก็จะจบลงที่ค่าใช้จ่ายของโครงการเกินวงเงินที่กำหนดไว้
การบริหารความเสี่ยงของโครงการประกอบด้วย 6 ขั้นตอนประกอบด้วย
1. การวางแผน (Planning)
2. การระบุ ความเสี่ยง (Identification)
3. การวิเคราะห์เชิงคุณภาพ (Quality Analysis)
4. การวิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quantitative Analysis)
5. การวางแผนตอบสนองความเสี่ยง (Response Planning)
6. การตรวจติดตาม (Monitoring) และการควบคุม (Control

วิเคราะห์ระบบงาน ERP

ExSys Co., Ltd. เป็นบริษัทที่มีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำในด้านการให้คำปรึกษา นำเสนอทางเลือกของซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมกับธุรกิจของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศด้ วย ขั้น ตอ นก า ร ว า ง ร ะบ บที่ มีประสิทธิภาพ โดยทีมงานมืออาชีพตรวจสอบได้ทุกขั้นตอนรวมถึงบริการหลังการขายที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับธุรกิจ ว่าสามารถใช้งานจากอฟแวร์ได้อย่างคุ้มค่า และ เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งเน้นการวางระบบให้อยู่บนพื้นฐานการทำ งานตามลักษณะเฉพาะของแต่ละประเภทธุรกิจ และง่ายต่อการใช้งานของผู้ใช้งานเป็นสำคัญ

ลักษณะการพัฒนาระบบของบริษัท
Build to Success….
จากนโยบายของบริษัทจะเห็นได้ว่า บริษัทมีแนวทางการพัฒนาระบบแบบ Waterfall และ Adapted Waterfall ซึ่งในแต่ละขั้นตอนนั้นสามารถนำมาแก้ไขข้อผิดพลาดหรือสามารถย้อนกลับได้ตามส่วนได้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญว่าต้องการระบบงานแบบไหน
ลักษณะการพัฒนาระบบ จะมีการแบ่งงานออกเป็น Phases โดยยึดหลักการพัฒนาแบบ SDLC แบ่งออกเป็น Phases ประกอบดัวยดังนี้
- Planning Phase
- Analysis Phase
- Design Phase
- Implement Phase

เริ่มต้นการวางแผนงานให้กับระบบก่อน ว่าแต่ละขั้นตอนจะใช้เวลา ผู้พัฒนา พร้อมทั้งต้นทุนในการพัฒนาอย่างไร และกำหนดเวลาในการส่งมอบงานให้กลับลูกค้าแต่ละ Phases เป็นอย่างไร หลังจากนั้ก็เริ่มการทำงานใน Phase การวิเคราะห์โดยเริ่มจากการเก็บ Requirement ของลูกค้า แล้วนำกลับมาวิเคราะห์และออกแบบตามความต้องการของลูกค้า เมื่อมีการวิเคราะห์และออกแบบในส่วนของ Requirements เรียบร้อยแล้วจะนำกลับไปนำเสนอลูกค้า ถ้าเกิดไม่มีปัญหา หรือ ตรงตามความต้องการของลูกค้าแล้วก็จะมีการเซ็นสัญญายอมรับงานในส่วนนั้น กรณีที่ไม่ตรงตามความต้องการของลูกค้าก็นำกลับมาแก้ไขใหม่แล้วนำกลับไปเสนอลูกค้าใหม่อีกที เมื่อลูกค้ามีการเซ็นสัญญาในส่วนงานนั้นแล้ว ถ้าหากต้องการแก้ไขก็จะมีการคิดค่าใช้จ่ายใหม่ หรือ อาจจะมีการตกลงกันอีกที จะมีการพัฒนาใน Phases ตามขั้นตอนต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะมีพัฒนาสำเร็จ พร้อมทั้งติดตั้งระบบและ Training จนเสร็จเรียบร้อย
ทั้งนี้การพัฒนาระบบของบริษัทฯ ก็ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นแบบ Waterfall และ Adapted Waterfall เสมอไป การพัฒนาระบบจะขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญและ Business Rule ของธุรกิจและความต้องการทางธุรกิจ
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังให้บริการด้านซอฟท์แวร์ อื่น เพื่อรองรับการทำงานของลูกค้าให้สมบูรณ์แบบมากขึ้นด้วย Add on Package อาทิ Point of Sale (POS), Barcode, RFID