วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

Build to Success….

ExSys Co., Ltd. เป็นบริษัทที่มีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำในด้านการให้คำปรึกษา นำเสนอทางเลือกของซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมกับธุรกิจของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศด้ วย ขั้น ตอ นก า ร ว า ง ร ะบ บที่ มีประสิทธิภาพ โดยทีมงานมืออาชีพตรวจสอบได้ทุกขั้นตอนรวมถึงบริการหลังการขายที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับธุรกิจ ว่าสามารถใช้งานจากอฟแวร์ได้อย่างคุ้มค่า และ เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งเน้นการวางระบบให้อยู่บนพื้นฐานการทำ งานตามลักษณะเฉพาะของแต่ละประเภทธุรกิจ และง่ายต่อการใช้งานของผู้ใช้งานเป็นสำคัญ

ลักษณะการพัฒนาระบบของบริษัท


จากนโยบายของบริษัทจะเห็นได้ว่า บริษัทมีแนวทางการพัฒนาระบบแบบ Waterfall และ Adapted Waterfall ซึ่งในแต่ละขั้นตอนนั้นสามารถนำมาแก้ไขข้อผิดพลาดหรือสามารถย้อนกลับได้ตามส่วนได้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญว่าต้องการระบบงานแบบไหน
ลักษณะการพัฒนาระบบ จะมีการแบ่งงานออกเป็น Phases โดยยึดหลักการพัฒนาแบบ SDLC แบ่งออกเป็น Phases ประกอบดัวยดังนี้
- Planning Phase
- Analysis Phase
- Design Phase
- Implement Phase

เริ่มต้นการวางแผนงานให้กับระบบก่อน ว่าแต่ละขั้นตอนจะใช้เวลา ผู้พัฒนา พร้อมทั้งต้นทุนในการพัฒนาอย่างไร และกำหนดเวลาในการส่งมอบงานให้กลับลูกค้าแต่ละ Phases เป็นอย่างไร หลังจากนั้ก็เริ่มการทำงานใน Phase การวิเคราะห์โดยเริ่มจากการเก็บ Requirement ของลูกค้า แล้วนำกลับมาวิเคราะห์และออกแบบตามความต้องการของลูกค้า เมื่อมีการวิเคราะห์และออกแบบในส่วนของ Requirements เรียบร้อยแล้วจะนำกลับไปนำเสนอลูกค้า ถ้าเกิดไม่มีปัญหา หรือ ตรงตามความต้องการของลูกค้าแล้วก็จะมีการเซ็นสัญญายอมรับงานในส่วนนั้น กรณีที่ไม่ตรงตามความต้องการของลูกค้าก็นำกลับมาแก้ไขใหม่แล้วนำกลับไปเสนอลูกค้าใหม่อีกที เมื่อลูกค้ามีการเซ็นสัญญาในส่วนงานนั้นแล้ว ถ้าหากต้องการแก้ไขก็จะมีการคิดค่าใช้จ่ายใหม่ หรือ อาจจะมีการตกลงกันอีกที จะมีการพัฒนาใน Phases ตามขั้นตอนต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะมีพัฒนาสำเร็จ พร้อมทั้งติดตั้งระบบและ Training จนเสร็จเรียบร้อย

ทั้งนี้การพัฒนาระบบของบริษัทฯ ก็ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นแบบ Waterfall และ Adapted Waterfall เสมอไป การพัฒนาระบบจะขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญและ Business Rule ของธุรกิจและความต้องการทางธุรกิจ

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังให้บริการด้านซอฟท์แวร์ อื่น เพื่อรองรับการทำงานของลูกค้าให้สมบูรณ์แบบมากขึ้นด้วย Add on Package อาทิ Point of Sale (POS), Barcode, RFID

ITM เปรียบเทียบ UPS and FedEx

ยูพีเอส (United Parcel Service - UPS) ยูพีเอสก่อตั้งเมื่อ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2450 ที่เมืองซี
แอทเทิล ในรัฐวอชิงตัน ปัจจุบันได้ย้ายสำนักงานใหญ่อยู่ที่แอตแลนตา ในรัฐจอร์เจีย
จุดเด่นของ เว็ปไซต์
1. นำเทคโนโลยีสารสนเทศเกิดประโยชน์ได้เป็นอย่างดี เพื่อประมวลผลข้อมูลใน
ด้านต่างๆ ทั้งในส่วนการแยกพัสดุภัณฑ์โดยอัตโนมัติ การจัดเรียงพัสดุภัณฑ์ให้มี
ประสิทธิภาพมากที่สุดในรถที่จัดส่งพัสดุภัณฑ์ไปยังลูกค้า ฯลฯ


2. นำเทคโนโลยีสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) ในการกำหนดเส้นทางรถยนต์เพื่อ
จัดส่งพัสดุภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยคอมพิวเตอร์จะคำนวณเส้นทาง
ให้รถยนต์เลี้ยวซ้ายในบริเวณสี่แยกให้น้อยที่สุด (กรณีของประเทศไทยเป็นการ
เลี้ยวขวา) มิฉะนั้น รถยนต์จะเสียเวลาและน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้นในการหยุดรอ
เลี้ยว ยิ่งไปกว่านั้น การเลี้ยวซ้ายยังมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุมากขึ้นกว่าการขับตรง
หรือเลี้ยวขวาอีกด้วย


3. UPS มีการคิดค้นอุปกรณ์ Delivery Information Acquisition Device (DIAD) ซึ่ง
เป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แบบพกพา มาอำนวยความสะดวกในการให้บริการเซ็น
รับเอกสารหรือพัสดุ โดยสามารถประหยัดเวลามากกว่าการเซ็นรับพัสดุบน
กระดาษ เนื่องจากสามารถตรวจสอบได้ง่ายว่าเป็นลายเซ็นนอกจากนี้ ข้อมูลที่
ได้รับจากเครื่อง DIAD จะส่งโดยทันทีไปยังศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท
ทำให้สามารถประมูลข้อมูลที่ได้รับแบบ Real Time


จุดด้อยของเว็ปไซต์
1. การส่งของถึงปลายทางช้ากว่ากำหนด
2. มีขั้นตอนในการเช็ครายละเอียดพัสดุยุ่งยาก
3. มีลูกข่ายน้อย
4. มีความปลอดภัยน้อย
จากการทดลองส่งของจาก Bangkok, Thailand ไป Itaty จาก www.usp.com สามารถแสดง
รายละเอียดได้ดังนี้



บริษัท เฟดเดอรัล เอ็กซ์เพรส คอร์ปอเรชั่น จำกัดหรือเรียกสั้น ๆ ว่า “FedEx” เป็นบริษัทที่
ให้บริการด้านการพัสดุธุรกิจการขนส่งพัสดุสินค้าซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจการขนส่งที่มีสาขาเครือข่าย
การให้บริการครอบคลุมกว่า 200 ประเทศทั่วโลก


“FedEx” เป็นบริษัทที่ให้บริการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์เร่งด่วนของสหรัฐอเมริกา และ
เริ่มปฏิบัติการในไทยโดยผ่านตัวแทนดำเนินงานตั้งแต่ปี พ.ศ.2526 และจัดตั้งสำนักงานอย่างเป็น
ทางการในปี พ.ศ.2542 บริษัทมีการพัฒนาการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องดังจะเห็นได้จากการได้รับ
รางวัล Malcolm Baldrige National Quality Award ในปี พ.ศ.2533 ของสำนักงานใหญ่ใน
ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งแนวทางการบริหารจัดการในการดำเนินงานดังกล่าวเป็นมาตรฐานการ
ทำงานที่นำมาใช้กับบริษัทในเครือทั่วโลกปัจจุบัน FedEx มีพนักงานทั่วโลกประมาณ 148,000 คน
มีเครื่องบินขนส่งสินค้ามากกว่า663 เครื่อง รถบรรทุกและรถส่งของทั่วโลกกว่า 45,500 คัน ซึ่ง
สามารถรับส่งสินค้ามากกว่า 33 ล้านชิ้นต่อวันทำการ ในส่วนของประเทศไทย ปัจจุบันมีพนักงาน
ประมาณ 340 คน มีรถรับส่งสินค้า 66 คัน และมีส่วนแบ่งตลาดสูงเป็นลำดับต้น ๆ
FedEx มีปรัชญาการดำเนินงาน คือ “บุคลากร-การบริการ-ผลกำไร” ที่บริษัทมุ่งสร้างความ
สมดุลให้เกิดขึ้นทั้ง 3 องค์ประกอบ ภายใต้แนวคิดการบริหารงานว่าหากพนักงานมีความรู้และ
ความสามารถที่ดีในการทำงานและเอาใจใส่ในการบริการลูกค้า จะทำให้พนักงานให้บริการลูกค้า
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะนำมาซึ่งความพึงพอใจของลูกค้า และลูกค้าจะกลับมาใช้บริการของ
FedEx มากขึ้น ซึ่งทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทดีขึ้นด้วย ทั้งนี้ผลตอบแทนที่ได้รับ
จากผลกำไรก็จะย้อนกลับไปยังพนักงานในรูปแบบของผลประโยชน์ต่าง ๆ


จากการศึกษาข้อมูลของ FedEx แล้วเล็งเห็นว่า FedEx มีลักษณะการทำงานที่เป็นเอกลักษณ์และเป็น
แนวทางในการปฏิบัติในการทำธุรกิจของ FedEd


1. การกำหนดตัววัด ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานที่สอดคล้องกับทิศทางของ
บริษัทที่มุ่งเน้นการให้บริการที่รวดเร็ว ถูกต้อง และตรงเวลา โดย FedEx ได้กำหนดตัวชี้วัดผล
การดำเนินงานที่เหมือนกันทั่วโลก เรียกว่า “International Service Quality Index (ISQ) เช่น การวัด
จำนวนวันที่ใช้ส่งสินค้า ความเสียหายของสินค้าลูกค้า


2. ช่องทาง ระบบการสื่อสารข้อมูลให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ และการใช้ข้อมูลเพื่อปรับปรุงการ
ดำเนินงาน โดยดำเนินการผ่านระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์หรืออินเทอร์เน็ต FedEx มีการเก็บข้อมูล
อย่างเป็นระบบ และช่องทางการสื่อสารภายในองค์กรก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว โดยผู้บริหาร
ตั้งแต่ระดับผู้จัดการจะได้รับ Notebook 1 เครื่อง เพื่อความคล่องตัวในการทำงานนอกสถานที่ และ
สามารถออนไลน์โดยการใช้ต่อจากโทรศัพท์ที่มีอุปกรณ์พิเศษติดตั้งให้ต่อกับ Notebook เพื่อความ
รวดเร็วในการบริหารจัดการ